ด้วยเทรนด์เกี่ยวกับ “รถไฟฟ้า” หรือ EV CAR ในปัจจุบันนั้น ทำให้ความต้องการใช้รถที่เป็นกำลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่ต้องการในทุกกิจกรรมการเดินทาง ไม่ว่าจะทางใกล้หรือไกลก็อยากจะหามาขับกันทั้งสิ้น ซึ่งหนึ่งในรถไฟฟ้าที่มีมานานแล้วแต่หลายๆ ท่านอาจจะไม่ทราบกัน ซึ่งนั้นก็คือ “รถตีกอล์ฟ” ที่คุณๆ นั่งไปตามหลุมตีต่างๆ นั้นเอง วันนี้เราเลยอยากจะมาพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “รถตีกอล์ฟเป็นอย่างไรกันนะ” กันสักหน่อยครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาเราไปชมกันดีกว่าครับผม
มาจะเล่าให้ฟัง…
รถกอล์ฟ คือ รถที่มักใช้ในสนามกอล์ฟ เนื่องจากสนามมีขนาดใหญ่ จึงใช้เพื่อขนของหรือสัมภาระต่างๆ ที่มีน้ำหนักมากและพาโปรกอล์ฟไปยังจุดต่างๆ เพื่อสนุกสนานกับกีฬากอล์ฟ มีทั้งแบบเป็นรถกอล์ฟไฟฟ้าและน้ำมันเป็นพลังงาน แต่แน่นอนว่าทุกวันนี้ โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศมากมาย ดังนั้นรถกอล์ฟที่แนะนำคงจะหนีไม่พ้นรถกอล์ฟไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้ากันอีกเช่นเคย
หลักการทำงานของรถกอล์ฟไฟฟ้า
ตัวรถกอล์ฟจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเครื่องยนต์ทั้งหมด ซึ่งทำให้ในระหว่างการขับรถนั้นเงียบ เพราะรถกอล์ฟไฟฟ้าไม่มีเสียงการเร่งเครื่องยนต์ แถมยังนิ่ม หรือไม่มีอาการกระชากในการเปลี่ยนเกียร์ และออกตัว นอกจากนี้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งต่างจากใช้น้ำมันที่ต้องเกิดการเผาไหม้ ทำให้ไม่เกิดผลพิษทางอากาศ จึงทำให้รถกอล์ฟไฟฟ้าเป็นที่นิยม
ลักษณะเด่นของรถกอล์ฟไฟฟ้า
สามารถจุผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 2 – 6 คน สามารถขับเคลื่อนได้ระยะทางสูงสุดตั้งแต่ 70 – 100 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ราวๆ 22-23 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โครงสร้างรถทำจากเหล็ก พลังงานแบตเตอรี่ 8 โวทล์ 170 แอมป์ จำนวน 6 ลูก มอเตอร์จับเคลื่อน DC 48 โวลท์ 3-4 กิโลวัตต์ มักมาในดีไซน์สีขาวสะอาด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์โดยทั่วไปของรถกอล์ฟ
เรียกได้ว่ารถกอล์ฟนั้นนอกจากสนามกอล์ฟก็สนามใช้งานได้ทั่วไปในด้านการบริการ ยกเว้นแต่ขับขึ้นถนนเส้นหลักไม่ได้เพราะผิดกฏจราจรนั้นเองครับ
ข้อดีของการใช้รถกอล์ฟ
- เสียงเครื่องยนต์เงียบ ข้อดีของการเลือกใช้รถกอล์ฟ ไฟฟ้านั้นที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้นั้นคือ ในเรื่องของความเงียบ ที่แทบจะไม่มีเสียงเลยก็ว่าได้ ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าจะไม่ไปรบกวนใคร แม้แต่พนักงานด้วยกันเองไปจนถึงลูกค้าอย่างแน่นอน
- ประหยัดกว่ารถอื่นๆ ซึ่งหากมองในระยะยาวแล้ว การเลือก รถกอล์ฟ ไฟฟ้านั้นค่อนยข้างจะมีความประหยัดมากกว่าเนื่องจากการชาร์ต 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ถึง 40-60 กิโลเมตร และ การชาร์ตเพียงหนึ่งครั้ง จะกินไฟเพียง 16-17 บาทเท่านั้น ซึ่งหากเทียบกับรถแบบอื่น ๆ ที่ต้องเติมน้ำมันแล้วถือว่า
- การซ่อมและบริการรวดเร็ว อีกหนึ่งข้อที่สำคัญนั้นคือ ในเรื่องของการซ่อมและบริการที่รวดเร็วเนื่องจาก การที่ไม่ค่อยมีใครใช้มากเนื่องจากคิดว่าไม่คุ้มกับต้นทุน แต่หารู้หรือไม่ หากมองในระยะและผลประโยชน์แล้วถือว่าค่อนข้างจะตอบโจทย์ และ ได้รับความคุ้มมากเลยทีเดียว
“แล้วทุกๆ ท่านทราบกันหรือปล่าวครับว่า กว่าจะเป็น “รถกอล์ฟอเนกประสงค์” แบบนี้เนี่ย มาการปรับปรุงพัฒนาแบบไหนกัน”
ตามประวัติศาสตร์ มีรายงานว่าการใช้รถเข็นแบบใช้เครื่องยนต์ในสนามกอล์ฟเป็นครั้งแรกโดย JK Wadley จาก Texarkana, Texas / Arkansas ซึ่งเห็นรถเข็นไฟฟ้าสามล้อถูกใช้ในลอสแองเจลิสเพื่อขนส่งผู้สูงอายุไปที่ร้านขายของชำ ต่อมาเขาซื้อรถเข็นและพบว่ามันใช้งานได้ไม่ดีในสนามกอล์ฟ รถกอล์ฟไฟฟ้าคันแรกจึงถูกคิดค้นและผลิตขึ้นเองในปี พ.ศ. 2475 แต่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 1930 จนถึงปี 1950 การใช้รถกอล์ฟอย่างแพร่หลายที่สุดคือสำหรับผู้พิการที่ไม่สามารถเดินได้ไกล ในช่วงกลางทศวรรษ 1950 รถกอล์ฟได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากนักกอล์ฟโดยมีผู้ผลิตหลายรายและถูกพัฒนามาจนถึงในปัจจุบันนั้นเองครับ
และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “รถตีกอล์ฟเป็นอย่างไรกันนะ” ที่เราได้นำมารวบรวมให้ทุกๆ ท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านกันพอสนุกๆ ครับ คิดว่าน่าจะได้เกล็ดความรู้ติดตัวกันไปบ้างนะครับ