“แทรป” แนวดนตรีแนวใหม่ที่มาพร้อมกับความขี้อวดจนน่าหมั่นไส้

เพลงหรือแนวเพลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ และเปลี่ยนได้ไปตามสมัยนิยม ในอดีตแนวเพลงอาจจะเป็นสไตล์ลูกทุ่งหรือแนวลูกกรุงซึ่งเน้นการเล่าเรื่องและบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ แต่พอเวลาผ่านไปเพลงแนวใหม่ๆ ต่างๆ ก็เริ่มเข้ามาไม่ว่าจะเป็นแนวเพลง R&B ร็อค ป๊อป ก็ล้วนเป็นเพลงแนวใหม่ๆ ที่เข้ามาทั้งสิ้น

และเพราะว่าแนวเพลงล้วนเปลี่ยนไปตามยุคสมัยของผู้คน ทำให้ปัจจุบันก็ยังมีเพลงใหม่ๆ เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย และในตอนนี้สไตล์เพลงใหม่ๆ อย่างเพลง “แทรป(Trapped)” มีหรือจะไม่ได้รับความนิยม

เพลงแทรป จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ยุค 90 โดยมีรากฐานมาจากแนวเพลง HipHop  ที่มีต้นกำเนิดมาจาดทางตอนใต้ของอเมริกา อย่างรัฐ Texas, Georgia และ Virginia เป็นต้น โดยที่เนื้อหาของเพลงมักจะเป็นการกล่าวถึงชนชั้นล่างๆ มีเนื้อหาที่ค่อนข้างหยาบคาย ดิบๆ เถื่อนๆ เรียกว่า Thung life แต่ว่ามันก็ยังไม่ดังนะ เพลงแนวแทรปเริ่มมาดังตอนที่เพลงแนว EDM เริ่มดังในปี 2010 และถูกบัญญัติให้กลายเป็นแนวเพลง EDM แขนงหนึ่งถึงแม้จะนักวิชาการแนวดนตรีหลายๆ คนจะปฏิเสธว่ามันไม่ใช่แนวเพลงก็ตาม  และหลังจากนั้นเพลงแนวแทรปก็ค่อยๆ เริ่มโด่งดังขึ้นมาเรื่อยๆ เนื่องจากเหล่าดีเจที่ทำเพลงแทรปเริ่มหยิบยืมเทคนิคของเพลงแนว EDM มาใช้ทำให้ตัวเพลงเริ่มได้รับการยอมรับจากผู้คนและกลายเป็นแนวดนตรีที่โด่งดัง

และสาเหตุที่เพลงแทรปเป็นเพลงสไตล์ขี้อวดนั่นก็เนื่องมาจากคำว่า trap ในภาษาแสลงของพวก   ฮิปฮอปที่แปลว่า สถานที่ซื้อขายยาเสพติด ก็เหมือนกับว่าก่อนหน้าที่พวกเราขายยาเสพติดมันจนใช่ไหมล่ะ แต่พอขายยาแล้วมันรวยอ่ะตอนนี้ทำไมถึงจะอวดไม่ได้ มันจึงกลายเป็นแนวเพลงสไตล์ขี้อวดอย่างที่เห็นนั่นเอง

ส่วนในช่วงนี้ก็มีแนวเพลงที่กำลังฮิตติดชาร์จที่เป็นสไตล์แทรปอยู่เหมือนกันยกตัวอย่างเช่น เพลง วิบวับ ของ Mindset, Daboyway, Younggu, และ Diamond ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการอวดรวยที่เห็นได้ชัด แถมใน MV ก็ยังมีการโชว์เงิน เพชรต่างๆ ที่ทำให้เห็นเลยว่าเป็นการอวดนั่นเองค่ะ ส่วนเนื้อหาเพลงก็อย่างที่เห็น ก็จะมีคำหยาบอยู่ค่อนข้างมาก ใครฟังก็ต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟังพอดูเลยล่ะ

ยกตัวอย่างของฝั่งไทยไปแล้วเราลองมายกตัวอย่างของฝั่งฝรั่งดูบ้าง อย่างเพลง Yummy ของ Justin Bieber ที่พึ่งออกใหม่ก็เป็นเพลงแนวแทรปค่ะ เห็น MV ดูสดใสๆ แบบนั้นเถอะแต่หนุ่มจัสตินก็แฝงเนื้อหาที่บอกเล่าและอวดเกี่ยวกับเรื่องราวบนเตียงของเขากับภรรยาเอาไว้อีกด้วยค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่แนวเพลงเท่านั้น เป็นสไตล์เพลง อาจจะไม่ใช่ตัวจริงของศิลปินก็ได้นะคะ เพราะฉะนั้นหากใครที่ฟังเพลงแนวนี้แล้วรู้สึกไม่ดีก็อยากจะให้ลองเปิดใจแล้วก็คิดว่ามันคือศิลปะดูได้เลย